เห็ดหลินจือแดง เห็ดเหนือธรรมชาติที่ทางการแพทย์ต่างยกย่องว่าเป็นสมุนไพรแห่งชีวิต!!

สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินถึงสรรพคุณสุดอัศจรรย์ใจของเจ้าเห็ดหลินจือแดงกันมาก่อนล่ะก็ ต้องอ่านเรื่องนี้ให้จบ!! เพราะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดสมุนไพรที่ทางการแพทย์ยังต่างให้การยอมรับเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้เยอะแยะมากมายจริงๆ

จนไม่นานนัก เห็ดหลินจือแดงก็ได้ถูกขนานนามว่าเป็น เห็ดเหนือธรรมชาติ เพราะมีสรรพคุณที่สามารถช่วยชีวิตคนได้แบบล้านแปด แถมยังถูกบันทึกลงในตำราสมุนไพรที่มีอายุมากที่สุดของประเทศจีนอีกด้วยเช่นเดียวกัน

เพราะมีสารอาหารเหล่านี้นี่เอง เห็ดหลินจือแดงจึงได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดยาสมุนไพร!!

ซึ่งในเห็ดหลินจือแดงนั้นมีสารอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพอยู่มากมายเต็มไปหมด ทั้งเส้นใยต่าง ๆ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุบางชนิด ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เซเลเนียม ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง รวมไปถึงพวกสารโมเลกุลชีวภาพที่สำคัญๆ อย่างเช่น

• ไตรเทอร์พีน ที่ช่วยกำจัดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับ ป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด
• นิวคลีโอไทด์ ที่ช่วยออกฤทธิ์บรรเทาอาการเจ็บปวด ป้องกันลิ่มเลือดแข็งตัวในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส
• พอลิแซ็กคาไรด์ มีฤทธิ์เสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด ลดอาการอักเสบ
• เจอมาเนียม ซึ่งมีส่วนในการช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย บำรุงประสาท สมอง หัวใจ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
• เออร์โกสเตอรอล ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน และสารอนุพันธ์อื่น ๆ

ซึ่งในหลายๆ บ้าน ก็นำเอาเห็ดหลินจือมาประกอบอาหารกินกัน และสายพันธุ์ที่นิยมและมีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุดคือสายพันธุ์สีแดง หรือเห็ดหลินจือแดง หรือกาโนเดอร์มา ลูซิดัม (Ganoderma lucidum) โดยในเห็ดหลินจือจะมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งจะช่วยยับยั้งและรักษาอาการต่าง ๆ (ประโยชน์ด้านล่าง) โดยแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารพอลิแซ็กคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นสายพันธุ์สีแดงที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในทุกสายพันธุ์แล้วนั่นเองล่ะ

ซึ่งเพราะเหตุนี้แหละ ที่ทำให้เห็ดหลินจือแดง กลายเป็นของหายากที่มีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน โดยมีการยกย่องว่าเป็นยอดเห็ดที่ดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน และเป็นยาบำรุงร่างกายและใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาโรคต่างๆ ได้หลายโรค และยังปลอดภัยไม่มีสารพิษใดๆ ต่อร่างกายอีกด้วยล่ะ

อีกทั้งยังใช้เห็ดหลินจือแดงมาเป็นทางเลือกในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายจากภายใน เพราะจากงานวิจัยพบว่า เห็ดหลินจือมีส่วนช่วยในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยการเพิ่มการทำงานของ T และ B lymphocytes เซลล์โมโนนิวเคลียร์ และกลุ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวอื่นๆ ในหลอดทดลองในสัตว์ทดลองและในร่างกาย ซึ่ง T และ B lymphocytes มีหน้าที่สำคัญในการทำลายไวรัสและกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายของเราได้

จึงมีชาวจีนจำนวนไม่น้อยเลย ที่หันมาบริโภคเห็ดหลินจือแดงเพื่อช่วยป้องกันตนเองจากไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาดหนักโดยทั่วโลกอย่างเช่นทุกวันนี้

เห็ดหลินจือแดง ช่วยรักษาอะไรได้บ้าง??

1. ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพราะในเห็ดหลินจือแดงนั้น มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมีบทบาทช่วยยับยั้งการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และรา จึงไปกระตุ้นให้เซลล์พิฆาตมะเร็ง (NK cell) ทำงานได้ดีขึ้นด้วย ส่งผลให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและเซลล์มะเร็งได้อย่างดี
2. ช่วยการทำงานของตับและยับยั้งเซลล์มะเร็ง เห็ดหลินจือแดงมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น สารในกลุ่ม Triterpenoid ซึ่งมีส่วนช่วยร่างกายขับสารพิษจึงทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังพบว่า สารดังกล่าวยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งตับได้อีกด้วย
3. รักษาอาการภูมิแพ้ สารประกอบสำคัญในเห็ดหลินจือแดงมีส่วนช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการอักเสบจึงช่วยบรรเทาผดผื่นคันบนผิวหนัง รวมถึงอาการไอ จาม คัดจมูก ซึ่งเกิดจากภูมิแพ้ได้ ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยก็เข้าสู่หน้าฝนแล้ว เตรียมตัวหาซื้อมาลองทานเพื่อป้องกันตัวเองไว้ก่อนจะดีที่สุด
4. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระในเห็ดหลินจือแดงจะช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ไม่ให้ถูกทำลาย ยับยั้งการเกาะตัวของไขมันและลิ่มเลือดบนผนังหลอดเลือด อีกทั้งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้
5. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์ สารต้านอนุมูลอิสระในเห็ดหลินจือแดงจะช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากการถูกทำลายจึงช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ และยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
6. บรรเทาอาการของโรคเบาหวาน มีงานวิจัยที่พบว่า สารสกัดจากเห็ดหลินจือแดงสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าเห็ดหลินจือแดงมีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลินและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้เช่นกัน
7. ลดความดันโลหิต จากการวิจัยพบว่า การให้สารสกัดเห็ดหลินจือแดงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือนในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง จะช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้  อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและลดการเกาะของไขมันในหลอดเลือดได้อีกด้วย
8. ช่วยรักษาอาการอ่อนเพลียและซึมเศร้า เท่านั้นยังไม่พอ หากใครรับประทานเห็ดหลินจือแดงเป็นระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ติดต่อกัน จะสามารถช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อาการกระวนกระวาย และภาวะซึมเศร้าได้เช่นเดียวกัน

และยังไม่หมดแค่นี้นะ จากผลการวิจัยทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่าในบรรดาเห็ดหลินจือแดงที่มีส่วนประกอบของ สารโพลีแซคคาไรด์ ไตรเทอร์พีน โปรตีโอไกลแคน ฟลาโวนอยด์ อัลคาลอยด์ อะดิโนซีน และกรดอะมิโน สารสำคัญเหล่านี้มีคุณสมบัติที่หลากหลาย ยังก่อให้เกิดสรรพคุณต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น

• การช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อต้านเชื้อโรค และทำลายเซลล์ที่ผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง และยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ หอบหืดได้อีกด้วย
• มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพในผู้ใหญ่ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ( Anti-Aging Process ) มีส่วนช่วยให้ชะลอความแก่
• ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตันในสมองและหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัมพฤต และกล้ามเนื้อหัวใจตาย
• บำรุงและป้องกันตับจากสารพิษ
• ช่วยในการสมานแผลในกระเพาะอาหาร
• บำรุงระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้นอนหลับสนิทยิ่งขึ้น
• ช่วยบรรเทาผลข้างเคียงจากรังสีรักษา หรือเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง เช่น อาการอักเสบ ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน หรือเม็ดเลือดขาวต่ำ
• สามารถทานติดต่อกันเป็นเวลานานโดยปราศจากสารตกค้างในร่างกาย
• บำรุงร่างกาย เสริมกำลัง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
• ลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ
• ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น
• ชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
• บำรุงสายตา
• แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ
• บำรุงระบบประสาท แก้อาการนอนไม่หลับ เวียนศีรษะ เบื่ออาหาร
• ขับปัสสาวะ รักษาโรคทางเดินปัสสาวะ
• ป้องกันการทำงานหนักของไต
• รักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
• ลดอาการปวดประจำเดือน
• แก้ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในคุณผู้ชาย
• แก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก ใครมีปัญหามีลูกยาก พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สมหวัง ยิ่งต้องลอง!
• ยับยั้งเชื้อไวรัส อย่างไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์ไวรัสกำลังระบาดทั่วโลก การดูแลตัวเองด้วยการบริโภคเห็ดหลินจือแดงป้องกันไว้ก่อนก็มีชัยไปกว่าคนอื่นแล้ว
• รักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจน เช่น ถุงลมโป่งพอง หัวใจล้มเหลว เส้นเลือดหัวใจตีบ

สปอร์เห็ดหลินจือให้คุณประโยชน์มากที่สุด

หากใครอยากรู้ว่า แล้วในส่วนทั้งหมดของเห็ดหลินจือ ส่วนไหนสำคัญที่สุดล่ะก็ ว่ากันว่าเห็ดหลินจือที่ดีที่สุดคือส่วนของสปอร์เห็ดหลินจือ ซึ่งเป็นส่วนที่มีผนังหุ้มเกาะสองผัง มีลักษณะเป็นผงสีน้ำตาล ขนาดเล็กมาก ปกติแล้วสปอร์เห็ดหลินจือมีผนังหรือเปลือกที่หนาซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยผนังนี้ได้

จึงต้องผ่านกระบวนการกะเทาะเปลือกหรือแตกตัวให้กับสปอร์เห็ดหลินจือเสียก่อน หากต้องการรับประทานเห็ดหลินจือและได้สรรพคุณสูงสุดควรรับประทานส่วนของสปอร์เห็ดหลินจือหรือรับประทานเห็ดหลินจือสกัด ซึ่งจะทำให้ได้สารสกัดเห็ดหลินจือมากที่สุดและสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

แล้วการบริโภคเห็ดหลินจือ ทำได้กี่แบบ??

สำหรับการรับประทานเห็ดหลินจือนั้นมีหลายรูปแบบมากมาย ตามความถนัดของแต่ละคน ซึ่งก็ทำได้ดังนี้

1. นำเห็ดหลินจือมาต้มกับน้ำและดื่มน้ำที่ได้เข้าไป แต่วิธีนี้จะได้สารสกัดเห็ดหลินจือในปริมาณที่น้อย
2. รูปแบบโบราณ คือ การนำเห็ดหลินจือไปตากแห้ง จากนั้นนำมาต้มกับน้ำและดื่ม วิธีนี้อาจยุ่งยากแถมรสชาติยังอาจขมเฝื่อน ทำให้รับประทานได้ยาก
3. นำเห็ดหลินจือมาบดบรรจุลงในแคปซูลและรับประทาน สำหรับการรับประทานเห็ดหลินจือในรูปแบบนี้ ร่างกายจะได้รับสารสกัดเห็ดหลินจือน้อยที่สุด เนื่องจากร่างกายของมนุษย์เรานั้นไม่สามารถสกัดสารบางชนิดได้ด้วยตัวเอง จึงเปรียบได้กับการรับประทานไม้บด
4. ดองเห็ดหลินจือกับเหล้า และดื่มเหล้าที่ได้จากการดอง ซึ่งวิธีนี้จะได้สารสกัดเห็ดหลินจือมากกว่า 2 แบบแรก
5. รับประทานเห็ดหลินจือสกัดในรูปแบบแคปซูลเจล เม็ดยาและน้ำ ซึ่งมีวางจำหน่ายและหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอาหารเสริมหรือร้านขายยาทั่วไป วิธีนี้จะได้สารสกัดเห็ดหลินจือในปริมาณเยอะที่สุด ร่างกายสามารถดูดซึมสารที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีจำหน่ายทั้งเห็ดหลินจือสกัดและสปอร์เห็ดหลินจือสกัดนั่นเอง
6. รูปแบบแคปซูลนิ่ม จากสารสกัดเห็ดหลินจือแดง รูปแบบนี้จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่จนได้สารสกัดที่มีความเข้มข้น และอุดมด้วยสารที่มีคุณประโยชน์ตามต้องการสูงสุด ดูดซึมได้ง่าย

เคล็ดลับการทานเห็นหลินจือ แบบทานแล้วเห็นผลจริงๆ ทำยังไง!!

เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารสำคัญอย่างเต็มที่และครบถ้วนที่สุดเมื่อทานตอนท้องว่าง ดังนั้น จึงแนะนำให้ทานทันทีหลังตื่นนอน หรือก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการทานเห็ดหลินจือนั้นส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบน้ำ โดยการฝานเห็ดหลินจือบางๆ 2-3 ชิ้น ต้มในน้ำเดือด 10-15 นาทีและใช้ดื่มแทนน้ำได้ตลอดเวลา จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น เสริมภูมิต้านทานและไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

ทุกคนก็ได้เห็นไปพร้อมๆ กันแล้วว่า การไม่มีโรคนั้นเป็นลาภอันประเสริฐแท้จริง และการจะทำให้ตัวเองปราศจากโรคภัยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อได้มารู้จักกับเห็ดหลินจือแดง หรือสุดยอดยาสมุนไพรที่พระเจ้าสรรสร้างมาเพื่อโลกมนุษย์นั่นเอง

จะเห็นได้ว่า เห็ดหลินจือแดงมีประโยชน์และสรรคุณ ครบเครื่องบำรุงแทบจะทั่วทั้งร่างกายเลยทีเดียว แต่ถ้าจะช่วยเสริมให้สรรพคุณดียิ่งขึ้น ต้องมีตัวช่วยอย่าง ถั่งเช่าทิเบต โสมเกาหลี และเบต้ากลูแคนจากโอ๊ต ที่เป็นส่วนผสมเพิ่มเข้ามา

ตอนนี้ CORDY-1 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้รวมส่วนผสม ถั่งเช่าทิเบตคุณภาพแท้ 100% โสมเกาหลี เห็ดหลินจือแดงและเบต้ากลูแคน สกัดเข้มข้น อัดแน่นใน 1 แคปซูล ที่จะมาช่วยดูแลสุขภาพ ฟื้นฟูร่างกายและเสริมสมรรถภาพให้คุณ

เลขที่ อย. : 11-1-18157-5-0006